4 พืชผักสมุนไพรไทยบำรุงสายตา
4 พืชผักสมุนไพรไทยบำรุงสายตา
ในปัจจุบันพบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตาได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็น ต้อลม ต้อหิน ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม กระจกตาอักเสบ เป็นต้น สาเหตุของปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากความเสื่อมของดวงตาที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ (Free Radicals)
นั่นอาจเป็นเพราะร่างกายของคนเราโดยเฉพาะในยุคสมัยนี้สามารถเกิดสารอนุมูลอิสระได้อย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมากจากรูปแบบชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะที่มาเกิดจากความเครียด ฝุ่นควันและมลภาวะ แสงยูวี ฯลฯ สารอนุมูลอิสระจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับสารอื่นในร่างกายที่เรียกว่าปฏิกิริยาออกซิเดชั่นซึ่งก่อให้เกิดความเสื่อมถอยของร่างกายทั้งริ้วรอย และโรคต่าง ๆ ก่อนวัยอันควร รวมถึงโรคของดวงตาด้วย
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ดังนั้นใครที่อยากมีแววตาสดใสดูมีออร่าก็ควรที่จะรู้จักดูแลถนอมสายตา และเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่มีส่วนช่วยบำรุงรักษาสายตา พอพูดมาแบบนี้แล้วหลายคนคงรีบไปหาซื้ออาหารเสริมราคาแพง ๆ มารับประทานกันอย่างรีบด่วน แต่เดี๋ยวก่อน!…เราจะเสียเงินจำนวนมากไปทำไมในเมื่อมีสมุนไพรดี ๆ ที่หาได้ง่าย ราคาสบายกระเป๋าสามารถช่วยบำรุงสายตาได้เหมือนกัน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 4 พืชผักสมุนไพรไทยบำรุงสายตา จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
“ปวยเล้ง”
ปวยเล้ง (Spinach) หรือบางคนอาจคุ้นชินในชื่อผักโขม แต่จริง ๆ แล้ว เป็นผักคนละชนิดกัน แต่อยู่ในตระกูลเดียวกัน ปวยเล้งเป็นผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่สำคัญคือมีสารลูทีนและสารนีโอแซนทีน ซึ่งเป็นสารในกลุ่มของสารแคโรทีนอยด์ที่พบหนาแน่นอยู่ในบริเวณเลนส์ตาและจอรับภาพตาโดยสารนี้จะทำหน้าที่ต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายเซลล์รับภาพอันเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับดวงตาและช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าเช่นแสงจากจอคอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถือดวงอาทิตย์หลอดไฟซึ่งเป็นอันตรายกับจอประสาทตา
การดื่มน้ำปวยเล้งคั้นสกัดวันละ 1 แก้ว เช้าและเย็น มีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาโรคตาบอดกลางคืน ต้อกระจกและความเหนื่อยล้าจากการใช้สายตาเป็นเวลานานๆได้ช่วยทำหน้าที่บำรุงตาทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว
“อัญชัน”
อัญชัน (Butterfly pea) นอกจากจะเป็นพืชสมุนไพรที่มีสีสวยแล้ว ยังเต็มเปรียบไปด้วยสรรคุณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนโลหิต มีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือด แก้อาการฟกช้ำ และมีสาระสำคัญอย่าง สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของดวงตา บรรเทาอาการตาพร่ามัว ตาแฉะ หรือการเสื่อมของดวงตาจากโรคต้อหิน โรคต้อกระจก หรือโรคเบาหวาน ได้อีกด้วย
ปัจจุบันมีการแปรรูปอัญชันให้อยู่ในรูปของเม็ดแคปซูลเพื่อให้สามารถรับประทานได้ง่ายแต่ทั้งนี้ควรรับประทานตามคำแนะนำแพทย์หรือเภสัชกร
“ขมิ้นชัน”
ขมิ้นชัน (Turmeric) สมุนไพรสีเหลืองที่ใช้เป็นเครื่องเทศชั้นดีช่วยชูรสอาหารให้อร่อยเลิศ และยังมีสรรพคุณทางยาในหลายตำหรับ มีผลงานวิจัยพบว่า สารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids) ซึ่งเป็นสาระสำคัญ ที่มีอยู่ในขมิ้นชันมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ และยับยั้งการผลิตไซโตไคน์หรือสารที่ทำให้เกิดการอักเสบหลายชนิด จึงสามารถช่วยปกป้องจอประสาทตาจากแสงได้ และจากการทดลองในสัตว์ทดลองพบว่า สารเคอร์คูมินอยด์ สามารถป้องกันภาวะ Diabetic retinopathy หรือ เบาหวานขึ้นจอตา (DR) ได้ด้วย
“ใบบัวบก”
ใบบัวบกหรือบัวบก (Gotu kola) เป็นสมุนไพรเย็นที่นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการช้ำใน ยังช่วยบำรุงสายตาได้ด้วย เพราะในใบบัวบก เป็นแหล่งของวิตามินเอ ที่มีผลต่อการทำงานของสายตา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ตาทำงานได้ดี และการมองเห็นที่ชัดเจน แต่เมื่อไรก็ตามที่ร่างกายได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอกับความจะทำให้เกิดอาการสายตาพร่ามัว ตาฟางได้ใบบัวบกสามารถนำมารับประทานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนำมาลวกจิ้มน้ำพริก รับประทานเป็นผักสด หรือนำมาทำเป็นน้ำใบบัวบกก็ทำได้ไม่ยาก
ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย อย่าลืมใส่ใจดูแลเพื่อให้เรามีดวงตาที่สดใสพร้อมเอาไว้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ