เด็กวัยนี้ กินอะไรดี
เด็กวัยนี้ กินอะไรดี
อาหารไม่ว่าจะเป็นวัยไหน ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนจะต้องบริโภค แต่ใช่ว่าแต่ละช่วงวัยจะต้องการอาหารแบบเดียวกันเพราะวัยที่แตกต่างกันก็ย่อมมีพัฒนาการและการเติบโตที่ไม่เหมือนกันและต้องการ สารอาหารที่แตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นการที่เราเลือกรับประทานอาหารได้ถูกก็จะยิ่งส่งเสริมให้ร่างกายเติบโตสมวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยแรกเกิดถึงวัยเรียน ถือเป็นวัยรากฐานของชีวิตหากร่างกายได้รับสารอาหารที่เอื้อต่อการพัฒนาของสมองและระบบภูมิคุ้มกัน ก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใส่ใจในเรื่องอาหารสำหรับช่วงวัยนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ แล้วเด็กแต่ละวัยควรกินอะไรกันบ้างติดตามได้ในบทความนี้
วัยแรกเกิด (แรกเกิด-1 เดือน)
ในช่วงวัยนี้ควรให้เด็กกินนมแม่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นนอกจากจะสะดวกประหยัดแล้วสิ่งสำคัญคือนมแม่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์คุณค่าทางโภชนาการสูงมีสารอาหารที่ทารกต้องการอย่างครบถ้วนโดยเฉพาะนมแม่ในช่วง 1-3 วันแรกที่อุดมไปด้วยภูมิคุ้มกันจึงควรให้ทารกได้รับนมส่วนนี้ อย่างไรก็ตามอาจจะมีบางส่วนที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ เช่น แม่ที่มีโรคต้องห้ามต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือลูกมีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายระหว่างคลอดหรือหลังคลอดจนทำให้ไม่สามารถกินนมแม่ได้ ก็อาจจะเลือกนมผสมที่มีองค์ประกอบใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุด สามารถย่อย และดูดซึมได้ดี เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดต่อระบบทางเดินอาหารตามมา
วัยทารก (1-12 เดือน)
ช่วงแรกเกิด 0-6 เดือน ยังคงให้เด็กกินนมแม่เพียงอย่างเดียว แม้แต่น้ำเปล่าก็ยังไม่จำเป็น เพราะในน้ำนมแม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 80 ซึ่งเพียงพอสำหรับทารกอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้น้ำเพิ่มอีกเพราะจะเสี่ยงต่อภาวะน้ำเป็นพิษได้ ส่วนเด็กในช่วงวัย 6-12 เดือน ควรได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นเป็น 800-1,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ดังนั้นจึงค่อย ๆ เริ่มมื้ออาหารเสริมควบคู่ไปกับนมแม่ ส่วนแต่ละช่วงวัยควรเริ่มอาหารกี่มื้อ และควรให้กินอะไร สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กที่คุณแม่ได้รับในตอนที่ฝากครรภ์
เด็กวัยเตาะแตะ (1-3 ปี)
เด็กวัยนี้มีการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายอย่างมาก โดยธรรมชาติของวัยนี้จึงมีการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อออกสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว และเกิดทักษะการใช้งานกล้ามเนื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมือ แขน และขา ดังนั้นเด็กวัยเตาะแตะจึงต้องการอาหารที่ให้สารอาหารและพลังงานสูง ในวัยนี้ควรได้รับอาหารมื้อหลักวันละ 3 มื้อ และนมจืดวันละ 2-3 มื้อ หรือหากยังกินนมแม่อยู่ด้วยก็ได้ถ้าหากแม่ยังมีน้ำนมอยู่ อาหารที่รับประทานอาจเป็นอาหารที่คล้ายกับผู้ใหญ่แต่เน้นว่าต้องปรุงให้สุก ชื้นเล็ก สามารถเคี้ยวได้ง่าย และรสชาติไม่จัด ถ้าจะให้ดีต้องมีผักและผลไม้เป็นส่วนประกอบด้วย
เด็กก่อนวัยเรียน (3-5 ปี)
เด็กอายุ 3-5 ปี เป็นวัยที่เริ่มมีกิจกรรมการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้น เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่จะเริ่มเข้าเรียน ชั้นอนุบาล จึงควรได้รับอาหารที่เหมาะสมต่อพัฒนาการของสมองและกล้ามเนื้อ โดยใน 1วัน เด็กวัยนี้ ต้องการพลังงานวันละ1,000-1,300 กิโลแคลอรี่ จึงควรได้รับอาหารหลักครบ 3 มื้อ ครบ 5 หมู่ ทั้ง คาร์โบไฮเดรต (เช่น ข้าว, แป้ง ธัญพืชต่างๆ), โปรตีน ( เช่น นม, เนื้อสัตว์ต่างๆ ), ไขมัน (เน้นไขมันที่มาจากพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันงา) วิตามิน และเกลือแร่( เช่น ผัก, ผลไม้ )เป็นต้น ที่สำคัญ ควรได้รับธาตุเหล็กจาก เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และไข่แดง เพื่อป้องกันภาวะโลหิตจาง
เด็กวัยเรียน (6-12 ปี)
เด็กในวัยนี้จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อควรรับประทานให้หลากหลายไม่ควรให้มีรับประทานแป้งและน้ำตาลมากจนเกินไป ทำให้หลากหลาย ควรทานเนื้อปลาและไข่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน เพราะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองเป็นผลต่อความจำและการเรียนรู้ของเด็ก นอกจากนี้ควรดื่มนมจืดวันละ 2-3 แก้วเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอสำหรับการสะสมมวลกระดูกทำให้กระดูกแข็งแรงช่วยให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้น