ประโยชน์ของขมิ้นชัน
ประโยชน์ของขมิ้นชัน
“ขมิ้นชัน” เป็นสมุนไพรไทยที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมายจึงเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ควรต้องมีติดบ้านวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับขมิ้นชันให้มากขึ้น
ลักษณะทั่วไป
ขมิ้นชัน หรือ ขมิ้น มีชื่อสามัญคือ Turmeric ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Curcuma Longa Linn เป็นพรรณไม้ประเภทเดียวกันกับขิงหรือว่าน เป็นไม้ล้มลุกที่มีเหง้าอยู่ใต้ดินเป็นลักษณะแขนงรูปทรงกระบอกคล้ายรูปไข่แตกออกเป็นแฉกด้านข้าง เนื้อในของเหง้าจะมีสีเหลืองอมส้มจนถึงสีเข้มคล้ายสีแสด มีกลิ่นค่อนข้างหอม ใบมีลักษณะเป็นสีเขียวนวล เป็นใบเดี่ยว มีความกว้าง 8-15 เซนติเมตร และความยาว 30-40 เซนติเมตร จะมีดอกคล้ายคลึงกับดอกกระเจียวแต่ใหญ่กว่า ช่อดอกจะงอกแทงออกจากเหง้าบริเวณก้านใบเป็นช่อใหญ่สวย ทรงกระบอก กลีบดอกมีหลายสี แต่ส่วนใหญ่เป็นสีเหลืองอ่อน ตรงปลายช่อดอกจะมีสีชมพูอ่อน จัดเรียงเป็นชั้นซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของขมิ้นชัน คือ สีเหลืองสดบวกกับรสชาติที่เผ็ดร้อน คนไทยส่วนใหญ่จึงนิยมนำมาใช้เพื่อเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารเพื่อชูรสชาติอาหารให้มีความน่ารับประทานยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอาหารใต้ เช่น แกงกะหรี่ แกงเหลือง ข้าวหมกไก่ แกงไตปลา ฯลฯ จนได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งเครื่องเทศ” แต่แท้จริงแล้วขมิ้นชันยังสามารถยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกมากมาย
คุณประโยชน์ของขมิ้นชัน
1. ช่วยบำรุงผิว รักษาสิว เนื่องจากขมิ้นชัน มีสารกลุ่ม Curcuminoid ซึ่งมีฤทธิ์ ต้านการอักเสบ และต้านเชื้อจุลชีพพวกแบคทีเรีย ดังนั้นจึงสามารถนำมาใช้เพื่อรักษาสิว ลดอาการอักเสบ บวม รวมถึงผื่นคันต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง นอกจากนี้ในร้านเสริมสวย สปาต่าง ๆ ยังนิยมนำขมิ้นชันเป็นส่วนผสมในการขัดนวดผิวหน้า ผิวตัวเพื่อให้ผิวกระจ่างใส ลบรอยด่างดำต่าง ๆ ตามเรือนร่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณเองก็สามารถนำผงขมิ้นชันบดละเอียดมาผสมกับน้ำมะนาวหรือน้ำอุ่นพอให้เข้มข้นและผสมให้เข้ากัน จากนั้นทาลงบริเวณที่เกิดสิวหรือรอยดำ ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
2. บรรเทาอาการกรดไหลย้อน มีงานวิจัยศึกษามากมายระบุว่าสารเคอร์คูมินอยด์ที่อยู่ในขมิ้นชันนั้นมีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นการทำงานของน้ำดีให้สามารถผลิตน้ำย่อยเพิ่มการย่อยอาหารได้ดีขึ้น จึงช่วยลดอาการท้องอืด จุก แน่นอันเป็นสาเหตุของอาการกรดไหลย้อนตามมา โดยการรับประทานผงขมิ้นชันในขนาด 1.5 – 4 กรัม/วัน แบ่งเป็นวันละ 3 – 4 ครั้ง ช่วงเวลาหลังอาหารและก่อนนอน ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตขมิ้นชันผงในรูปแบบม็ดแคปซูล เพื่อให้สะดวกต่อการรับประทาน
3. แผลในกระเพาะอาหาร เนื่องจากสารสำคัญของขมิ้นชันมีสรรพคุณในการลดการอักเสบและช่วยกระตุ้นการหลั่งเมือกให้มาเคลือบที่กระเพาะอาหารจึงช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารได้และยังป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ใกล้เคียงกับยาลดกรดเลยทีเดียว
4. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มีการศึกษาผลของสารสกัดจากขมิ้นชันต่อเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง พบว่าสารเคอร์คูมินอยด์ มีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ได้ นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคที่มีสาเหตุมาจากความเสื่อมของร่างกายต่าง ๆ ได้อีกด้วย
5. ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากในขมิ้นชันช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อม อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดภาวะการแข็งตัวของหลอดเลือด จึงทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้สะดวก แต่อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการบริโภคและรูปแบบการใช้ชีวิตก็มีส่วนสำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเช่นกัน จึงควรรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค และออกกำลังกายร่วมด้วย